ผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวานฉ่ำ กินง่าย และเป็นที่นิยมในทุกเพศทุกวัย หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ “องุ่นไร้เมล็ด” ติดอันดับอยู่เสมอ ด้วยความสะดวกสบายในการรับประทาน รสชาติที่หลากหลาย และหน้าตาที่ดูดีเมื่อจัดจานหรือทำของขวัญ ทำให้องุ่นไร้เมล็ดกลายเป็นผลไม้ที่ครองใจตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า องุ่นไร้เมล็ดไม่ได้มีแค่พันธุ์เดียว และไม่ได้มาจากแหล่งเดียวบนโลกนี้ อันที่จริงแล้ว มีหลายพันธุ์จากหลายประเทศที่ผ่านการพัฒนาเพื่อให้ได้องุ่นที่กินง่าย ไม่มีเมล็กกวนใจ และยังให้รสชาติที่ถูกปากคนทั่วโลก

พันธุ์องุ่นไร้เมล็ดที่ได้รับความนิยมมากในระดับโลก ได้แก่ Thompson Seedless หรือที่บางประเทศเรียกว่า Sultana มีต้นกำเนิดจากประเทศอิหร่าน ก่อนจะได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งกลายเป็นแหล่งผลิตสำคัญ พันธุ์นี้มีลักษณะเด่นคือผิวสีเขียวอมเหลือง รสชาติหวานนุ่ม กลิ่นหอมบาง กรอบเบาๆ นิยมใช้รับประทานสด ทำลูกเกด หรือนำไปทำไวน์ขาว

อีกพันธุ์หนึ่งที่มาแรงในตลาดเอเชียคือ Crimson Seedless ซึ่งมีต้นกำเนิดจากโครงการพัฒนาพันธุ์ในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน องุ่นพันธุ์นี้มีผิวสีแดงเข้ม รสหวานจัด กรอบชัดเจน และเก็บได้นานจึงเหมาะกับการส่งออก ในประเทศไทยเองก็มีการนำพันธุ์นี้มาปลูกในฟาร์มเชิงพาณิชย์หลายแห่ง

นอกจากนี้ยังมีพันธุ์อื่นที่ถูกพัฒนาขึ้นในญี่ปุ่น ออสเตรเลีย หรือแม้แต่ไทยเองก็เริ่มมีการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์องุ่นให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศ เช่น พันธุ์ Black Opal, Autumn Royal หรือพันธุ์ Kyoho ที่แม้บางพันธุ์อาจมีเมล็ดเล็กบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในกลุ่มที่ถูกพัฒนาจนแทบไม่มีเมล็ดหรือกินได้ง่ายกว่าพันธุ์ดั้งเดิม

สำหรับคำถามที่ว่า “ไร้เมล็ดได้อย่างไร” คำตอบอยู่ที่กระบวนการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ รวมถึงการใช้เทคนิคทางการเกษตร เช่น การฉีดสารควบคุมฮอร์โมนบางชนิดในช่วงเริ่มออกผล เพื่อให้ผลเจริญเติบโตโดยไม่สร้างเมล็ด หรือเมล็ดจะไม่สมบูรณ์พอที่จะเห็นได้ชัดเจน เทคนิคนี้ใช้ร่วมกับการเลือกพันธุ์ที่มีแนวโน้มไร้เมล็ดตามธรรมชาติอยู่แล้ว ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีและตอบโจทย์ผู้บริโภค

ประเทศไทยแม้ไม่ใช่ต้นกำเนิดขององุ่นไร้เมล็ด แต่ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่นำเข้าพันธุ์เหล่านี้มาพัฒนาและปลูกในประเทศได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในภาคกลาง ภาคตะวันตก และบางพื้นที่ภาคเหนือ เช่น นครปฐม ราชบุรี หรือเพชรบูรณ์ ที่เริ่มกลายเป็นแหล่งผลิตองุ่นไร้เมล็ดคุณภาพดีทั้งเพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออก

องุ่นไร้เมล็ดยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้รักสุขภาพ เพราะมีแคลอรีต่ำ ไฟเบอร์สูง มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเรสเวอราทรอล (resveratrol) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและการอักเสบ ที่สำคัญคือการไม่มีเมล็ดทำให้กินง่าย ไม่ต้องคายเมล็ด ไม่เลอะเทอะ เหมาะกับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่ต้องการผลไม้กินเล่นระหว่างวัน ปัจจุบันในตลาดมีการขายองุ่นไร้เมล็ดหลากหลายสายพันธุ์ทั้งแบบสด แช่เย็น แพ็กกล่อง หรือแบบพรีเมียมที่คัดเฉพาะขนาดและสีอย่างพิถีพิถัน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าไม่ว่าจะในแง่รสชาติ หรือภาพลักษณ์ องุ่นไร้เมล็ดก็ครองใจผู้บริโภคได้อยู่เสมอ

องุ่นไร้เมล็ดไม่ได้มีแค่หนึ่งพันธุ์หรือแหล่งเดียว แต่เกิดจากการพัฒนาหลากหลายพันธุ์ในหลายประเทศ โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือทำให้ผลไม้ชนิดนี้กินง่าย ถูกปาก และดูดีในทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็น Thompson Seedless จากอิหร่าน สหรัฐอเมริกา หรือ Crimson จากโครงการพัฒนาพันธุ์สมัยใหม่ ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าโลกการเกษตรไม่เคยหยุดพัฒนา และผลไม้ธรรมดาก็สามารถกลายเป็นของพรีเมียมได้หากพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง